อีกหนึ่งละครไทยที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ชนิดที่ว่าใครๆ ก็อยากกลับไปอยู่บ้านหนองกะแยง กับบักเขียวจริงๆแล้วจ้า มนต์รักหนองผักกะแยง (2021) เป็นละครคอมเมดี้ที่สอดแทรกแนวคิดความรักบ้านเกิด และการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ที่ไม่พึ่งพาสารเคมี นั่นก็คือการทำไร่นาออร์แกนิค ทั้งผักและข้าวถูกปลูกและดูแลอย่างดี โดยไม่ใช่สารเคมีสักตัว ถือได้ว่าเป็นหนังไทยคุณภาพอีกเรื่องที่ปลูกฝั่งให้เกิดสิ่งดีๆ ขึ้นกับชีวิตชาวนา แต่ก็ไม่ได้มีดีแค่เนื้อหาที่มีประโชยน์เท่านั้นนะคะ บอกได้คำเดียวเลยจ้าว่ามนต์รักหนองผักกะแยงทั้งม่วนทั้งมีสาระอย่าลืมไปเบิ่งกันเด้อจ้า

เรื่องย่อ มนต์รักหนองผักกะแยง
บ้านหนองกะแยงเป็นหมู่บ้านขนาดย่อม ตั้งอยู่ทางภาคอีสาน ในหมู่บ้านมีหนองน้ำหลายหนองกนะจัดกระจายอยู่ รอบหมู่บ้านมีผักกะแยงรสเผ็ดกลิ่นร้อนแรง ซึ่งเป็นผักโปรดของชาวอีสานขึ้นอยู่ริมหนองให้ชาวบ้านได้เก็บไปแกงได้ตลอดปี ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านเช่นกัน เขียว (รับบทโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ) มีคู่หูคู่ปรับอยู่ข้างบ้านชื่อชมพู่ (โบว์ เมลดา) ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่พอโตขึ้น เขียวย้ายไปเรียนที่กรุงเทพฯ ทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกัน
เมื่อย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ จากที่เขียวเคยเป็นนักเรียนยอดนิยมนักกีฬายอดเยี่ยม เขียวกลายเป็นเพียงแค่เด็กบ้านนอกคนหนึ่งเท่านั้น เพราะเขาพูดภาษาไทยภาคกลางได้ไม่ชัด จึงทำให้โดนเพื่อนนักเรียนกลั่นแกล้งบูลลี่สารพัด เขียวจึงกลายเป็นตัวตลกในโรงเรียนโดยปริยาย

เมื่อเขียวโดนกดดันจากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนหนักเข้าเขาก็สติแตก โทษว่าเป็นความผิดยายที่เป็นคนอีสาน ทำให้ตัวเองต้องโดนเพื่อนแกล้ง จึงประกาศกร้าวว่าจะไม่กลับไปบ้านหนองกะแยงอีก ยายเพียร (น้อย โพธิ์งาม) จึงเสียใจเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่โกรธโทษหลานรัก ตรงกันข้ามกลับเป็นห่วงหลานอย่างสุดหัวใจ
เขียวก็พยายามฝึกพูดภาษาไทยกลางจนชัดเจนโดยที่ไม่มีสำเนียงอีสานหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย ทีนี้ เขาจึงพลิกชีวิตกลับมาเป็นหนุ่มป๊อปปูลาร์ และมันคือจุดเริ่มต้นของชีวิตที่เริ่ดเลอเพอร์เฟกต์ของธนากร

ด้านชมพู่เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เธอสอบติดคณะเกษตรที่มหาวิทยาลัยประจำจังหวัด ส่วนเขียวได้เข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ วันรับปริญญาของเขียวชมพู่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาแสดงความยินดีกับเขียว แต่เขาทำเมินดูถูกว่าชมพู่เป็นเด็กบ้านนอก แถมยังบอกอีกว่า “ไม่ได้สนิทกันจะมาทำไม ?” จากท่าทางที่เปลี่ยนไปของเขียวทำให้ชมพู่โกรธและเสียใจเป็นอย่างมาก
หลังจากเรียนจบ ชมพู่ได้งานเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรประจำจังหวัด และภายหลังตัดสินใจลาออกมาลงมือทำไร่แบ่งฝันปันรักไร่อินทรีย์ เป็นผู้สอนและช่วยเหลือชาวบ้านหนองกะแยงดูแลพ่อและแม่อย่างมีความสุข

ในทางตรงกันข้าม เขียวพอเรียนจบก็ได้งานเป็นผู้กำกับละครตั้งแต่อายุยังน้อย และได้แฟนชื่ออลิซ (ลิตา คาลิยา) เป็นดารานางร้าย เขียวรักมากหลงมาก ถึงขนาดทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อผ่อนคอนโดราคาหลายล้านบาท ซึ่งซื้อในชื่อของอลิซ ซึ่งเขาตั้งใจจะใช้เป็นเรือนหอในอนาคต
แต่วันเวลาผ่านไปอลิซก็นำโฉนดไปแล้ว เท่านั้นยังไม่พออลิซประกาศแต่งงานกับชายอื่นแบบสายฟ้าแล่บ เขียวช็อกแทบบ้า เงินก็ไม่เหลือแฟนติดต่ออลิซไม่ได้ สุดท้ายเขียวจึงจำใจ กลับบ้านหนองกะแยงด้วยความช้ำใจในที่สุด

เขียวมาถึงบ้านหนองกะแยงวันงานบุญของหมู่บ้าน โดยมีชมพู่ขับรถมารรับ ปิดหน้าปิดตาจนเขียวจำไม่ได้ ที่สำคัญกว่าจะกลับถึงบ้าน ก็ต้องพบกับเรื่องราวมากมายเกินบรรยาย จนเขียวถึงกับร้องไห้ออกมา ทุกคนต่างดีใจที่เขียวกลับมาบ้าน แต่เขียวกลับมองต่างออกไปว่า หากเขาขายที่ดินซึ่งเป็นสมบัติของครอบครัวได้ จะหอบเงินกลับไปตั้งหลักที่กรุงเทพฯ อีกครั้งให้ได้
ชมพู่มาเช่าที่ดินของยายเพียรเพื่อทำไร่เกษตรอินทรีย์ โดยใช้ชื่อว่าไร่แบ่งฝันปันรัก ไร่อินทรีย์แห่งนี้มีการจัดสรรพื้นที่ให้มีการทำนาปลูกผักหมุนเวียน ปลูกผลไม้หลายชนิดที่ผลัดกันออกผลผลิตครบทุกฤดู เลี้ยงไก่อินทรีย์ เลี้ยงไส้เดือน ใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ปุ๋ยหมักเศษอาหารและน้ำหมักชีวภาพ ไร่นี้ไม่มีลูกจ้าง อาศัยแต่แรงงานอาสาสมัคร มีการตอบแทนแรงงานด้วยตะกร้าอาหารผลผลิตจากไร่ อาสาสมัครตัวหลักประจำไร่คือครูริช ครูอาสาชาวอเมริกันสอนภาษาอังกฤษ ณ โรงเรียนบ้านหนองกะแยง หนุ่มรูปหล่อนิสัยดีเป็นคนติดดินพูดอีสานได้ชอบวัฒนธรรมอาหารอีสาน แถมยังชอบสาวอีสานที่ชื่อชมพู่อีกด้วย

ชมพู่เปิดตัวว่าเป็นเจ้าของโครงการไร่ เขียวเจรจาขอให้เธอยกเลิกสัญญา ชมพู่จึงมีข้อแม้ให้เขียวเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรจนครบทุกด่านเสียก่อน แล้วเธอจะยอมคืนไร่แบ่งฝันปันรักให้
ถึงแม้เขียวจะไม่เต็มใจทำงานในไร่นัก แต่กาลเวลาก็ทำให้เขาเกิดความรักความผูกพันกับบ้านเกิดอีกครั้ง ความสัมพันธ์อันเอื้อเฟื้อของผู้คนที่บ้านหนองผักกะแยงทำให้เขียวเริ่มเปลี่ยนไป เขียวเริ่มเรียนรู้วิถีชีวิตที่แท้ทั้งเรื่องการทำนาข้าวอินทรีย์ การเลี้ยงไส้เดือน การปลูกผักอินทรีย์ การทำน้ำส้มควันไม้ การเลี้ยงไก่อารมณ์ดี การทำน้ำหมักหลากสูตร อีกทั้งประเพณีของชาวอีสานอีกต่าง ๆ มากมาย ที่แสดงถึงความรักสามัคคีที่มีต่อกัน
จากคนที่ไม่อยากพูดภาษาอีสาน เขียวกลับมาพูดภาษาอีสานอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ เขียวเริ่มตัดใจจากคนรักเก่าได้แล้ว และเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักชมพู่เข้าให้แล้ว เขียวเห็นว่าชมพู่สนิทสนมกับครูริชมากก็ลังเลและนึกน้อยใจ โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าชมพู่นั้นรักเขียวมาตั้งแต่วัยเด็กและหัวใจของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง รอคอยวันที่เขียวจะกลับมาที่บ้านหนองกะแยงอีกครั้ง
